ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น

5 แนวทางพัฒนาทักษะการปรับตัวของคุณ

จากบทความที่แล้วที่เราได้ทำความรู้จักรวมถึงเรียนรู้ถึงความสำคัญของทักษะการปรับตัวกันมาแล้ว (สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านบทความเรื่องทักษะการปรับตัวเราได้แปะลิงค์ไว้ที่ใต้บทความนี้ให้แล้วครับ) ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น หลายคนอาจจะตั้งคำถามต่อว่าแล้วจริง ๆ แล้วทักษะในการปรับตัวที่เราควรพัฒนานั้นแท้จริงแล้วเราจะสามารถพัฒนาไปในทิศทางใดได้บ้างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รับข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กรูปเลย

ปุ่มสมัครติดตามข่าวสาร ชมสดฟรีๆผ่านfacebook

ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น มีอะไรบ้างตามมาดูกัน

     ในยุคสมัยที่เรากำลังเปลี่ยนแปลง ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น ไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (Fourth Industrial Revolution) ด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์อัตโนมัติ หรือนาโนเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล โดยเฉพาะกับการทำงานซึ่งเทคโนโลยีสามารถทำหน้าที่ได้ดีเทียบเท่าหรือดียิ่งไปกว่ามนุษย์ มนุษย์จึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของตนเองไปสู่ทักษะแห่งอนาคต ซึ่งเป็นทักษะที่ทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นและเทคโนโลยียังไม่สามารถแทนที่ได้ โดยทักษะแห่งอนาคตที่คุณควรมีติดตัวนั้นประกอบไปด้วย

ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น มีอะไรบ้างที่จะส่งเสริมตัวเราให้โดดเด่น

ทักษะการปรับตัวมีอิทธิพลต่อการทำงานในยุคปัจจุบันอย่างไร

     คุณทราบหรือไม่ว่าแนวโน้มการทำงานในยุคต่อไปเป็นอย่างไร เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น เราจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยครับว่าทักษะการทำงานบางชนิดจะถูกแทนที่ด้วยการทำงานของเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยที่นอกจากจะมีประสิทธิภาพมากกว่าก็ยังมีความผิดพลาดน้อยกว่าแรงงานของมนุษย์ ใครก็ตามที่มีอาชีพอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีพวกเขามีแนวโน้มสูงมากที่หากจะยังไม่ปรับตัวก็จะต้องตกงานและก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงนี้ในไม่ช้า แต่นอกเหนือจากการถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีการทำงานในระดับองค์กรเองก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงานมากขึ้น ทำให้ข้อมูลต่าง ๆระหว่างคนทำงานหรือระหว่างแผนกจะถูกแชร์กันภายในกันมากขึ้น ในอนาคตผู้ที่เก่งกาจแต่ทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ก็อาจจะไม่เป็นที่ต้องการมากนัก เพราะเทรนด์การทำงานในยุคต่อไปคือการร่วมมือร่วมใจและการทำงานกันแบบทีมเวิร์คจะมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของการทำงานซึ่งการที่คุณจะสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ในอนาคตคุณจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้ได้นั่นเอง ทั้งหมดนี้คือความสำคัญที่ว่าทำไมคุณจึงต้องพยายามพัฒนาทักษะการปรับตัวให้พร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ทักษะในการปรับตัวไม่ใช่การพัฒนาทักษะอย่างโดด ๆ แต่มันคือการปรับตัวและพัฒนาทักษะอื่น ๆ ที่จำเป็นขึ้นมาให้พร้อมใช้งาน

     เมื่อคุณต้องการที่จะพัฒนาทักษะการปรับตัวของคุณให้โดดเด่นขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่คุณต้องเข้าใจเสียก่อนก็คือคำว่าทักษะการปรับตัวเป็นเสมือนคำกว้าง ๆ ที่บ่งบอกหรือทำให้คุณเห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น “โดยการละทิ้งทักษะที่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต (Unlearn) แต่ให้พัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่คุณยังไม่ชำนาญให้เกิดความเชี่ยวชาญ (Relearn) หรือสร้างทักษะที่คุณยังขาดอยู่ให้เกิดขึ้นมาให้ได้ (Learn)” ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องสำรวจตนเองอย่างละเอียดเสียก่อนว่ามีทักษะในด้านใดบ้างที่คุณจำเป็นต้องพัฒนาให้ดีกว่าเดิมหรือมีทักษะใดบ้างที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อให้ทันกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคตนี้ครับ ซึ่งตัวอย่างของทักษะด้านต่าง ๆ ที่คุณจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาสำหรับการทำงานในอนาคตมีดังต่อไปนี้

– ทักษะในด้านการใช้เทคโนโลยี

– ทักษะในการสื่อสาร

– ทักษะในการสร้างและมีมนุษยสัมพันธ์

– ทักษะการมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

– ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

– ทักษะการทำงานเป็นทีม

– ทักษะการบริหารจัดการองค์กร เป็นต้น

ซึ่งการพัฒนาทักษะในแต่ละด้านจะต้องทำอย่างไรบ้าง เราจะมาลงลึกในรายละเอียดกันในภายหน้าครับ

เราควรจะเริ่มจาก ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น มีอะไรบ้างมาชมกันเลย

5 แนวทางพัฒนาทักษะการปรับตัว

1. ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น

แนวทางแรกที่จะทำให้คุณสามารถพัฒนาทักษะในการปรับตัวได้นั่นก็คือคุณต้องตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและต้องยอมรับให้ได้ด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นคือ “ความจริงที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” เพราะเมื่อใดที่คุณยอมรับความจริงของการเปลี่ยนแปลงนี้ได้คุณจะเริ่มต้นมองหาหนทางที่จะปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดให้ได้ครับ ในทางกลับกันหากคุณละเลยหรือเพิกเฉยต่อสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คุณย่อมจะมองไม่เห็นความสำคัญของการปรับตัวซึ่งการทำเช่นนี้ย่อมไม่เกิดผลดีขึ้นกับตัวของคุณเลยเพราะท้ายที่สุดแล้วคุณจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังหรือถูกกลืนหายไปจากระบบงานในที่สุด

2. พัฒนากรอบความคิดของตนเองให้เปิดใจที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ

เชื่อหรือไม่ว่าแม้คุณจะมองเห็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและรู้อยู่เต็มอกว่าถึงอย่างไรคุณก็ไม่อาจหนีพ้นความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นไปได้นี้แน่ ๆ แต่สิ่งที่ยากแสนยากที่สุดกับอยู่ที่การเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ นั่นเองเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะคุณ “คุ้นเคย”กับรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ จนกลายเป็นความเฉยชาและกลายเป็นว่าคุณติดอยู่ภายใต้กับดักของคำว่า Safe Zone ที่ไม่ยอมให้คุณได้ก้าวข้ามผ่านออกจากโซนปลอดภัยนี้เพื่อลองทำอะไรใหม่ ๆ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆเลย ซึ่งหากโซนปลอดภัยของคุณนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงนี้ เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาถึง Safe zone นี่แหละที่จะกลายเป็นวังวนที่ย้อนกลับมาล่มเรืออย่างคุณในท้ายที่สุด ดังนั้นจงพัฒนากรอบความคิดของตนเองให้พร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รวมไปถึงพร้อมที่จะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณในภายหน้าให้ได้เพราะสิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้คุณก้าวออกมาจาก Safe Zone และผลักดันให้คุณได้พัฒนาทักษะการปรับตัวของคุณครับ

3. จงตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง

เป้าหมายเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่จะทำให้คุณสามารถพัฒนาทักษะเพื่อการปรับตัวในการทำงานในอนาคตได้ ในช่วงเริ่มต้นคุณไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้ให้สูงจนคุณรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เกินเอื้อม เพราะเป้าหมายเช่นนี้จะทำให้คุณเกิดความท้อแท้และล้มเลิกการพัฒนาทักษะต่าง ๆไปกลางคันแต่ให้ค่อย ๆ เริ่มต้นจากเป้าหมายที่ง่ายก่อนและค่อย ๆเพิ่มความท้าทายขึ้นไปทีละน้อยเพื่อให้คุณก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ อย่างมั่นคง และในระหว่างเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาทักษะนี้ คุณสามารถที่จะให้รางวัลกับตนเองเพื่อเป็นการจูงใจได้ตราบที่คุณต้องการ การประยุกต์เช่นนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าการรปับตัวที่คุณกำลังทำอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องยากจนเกินความสามารถของคุณ

4. ขอคำติชมหรือคำวิจารณ์เพื่อนำมาปรับปรุงตนเอง

คำวิจารณ์หรือติชมมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของคุณเอง สิ่งนี้เปรียบเสมือนกระจกที่ช่วยสะท้อนสิ่งที่คุณทำว่ากำลังเดินหน้าไปสู่หนทางที่ถูกต้องหรือไม่ เมื่อมี่คำวิจารณืหรือติชมเกิดขึ้นมาสิ่งที่คุณควรทำก็คือน้อมรับทั้งคำวิจารณ์และติชมนั้นและพิจารณาถึงความสำคัญของสิ่งนี้ให้ดี หากคำวิจารณ์หรือติชมนั้นมีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองคุณก็ควรนำเอาคำเหล่านั้นมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์กับตนเองให้มากที่สุด ในทางกลับกันหากคำวิจารณ์ติชมนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ก็ไม่ควรเก็บมาใส่ใจและจงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะของตนเองต่อไป

5. ลงมือทำต่อไปอย่างไม่ลดละ

ทุก ๆ การพัฒนาย่อมจะต้องมีทั้งปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ การพัฒนาทักษะการปรับตัวก็เช่นกันที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณจะพัฒนามันได้โดยไม่พบเจอกับปัญหา แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุดก็คือความมุ่งมั่น บากบั่นและมุมานะที่จะกระทำให้สำเร็จ เพราะเมื่อใดที่คุณมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกปัญหาที่เข้ามาได้ เมื่อนั้นคุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากทักษะต่าง ๆ ที่คุณสร้างและพัฒนามันขึ้นมา

คำถามสุดท้ายก่อนจากลา หากวันใดที่การเปลี่ยนแปลงมาถึงตัวของคุณ คุณพร้อมหรือยังที่จะพัฒนาตนเองเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงนี้

ในอนาคตคุณไม่อาจหนีพ้นความเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามันจะมาถึงตัวคุณเร็วหรือช้าเท่านั้น และเมื่อวันนั้นมาถึงคุณพร้อมไหมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้น คุณพร้อมไหมที่จะพัฒนาตนเองในสิ่งที่ยังขาดอยู่เพื่อเอาไว้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พยายามเตรียมความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเอาไว้เสมอครับ เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในอดีต ใครที่ไม่สามารถพัฒนาทักษะในการปรับตัวขึ้นมาได้ เขาคนนั้นจะค่อย ๆถูกทิ้งให้รั้งท้ายและท้ายที่สุดก็จะถูกกลืนหายไปจากกระแสธารแห่งความเปลี่ยนแปลงอันเชี่ยวกรากในที่สุด

ติดตามตีเลขเด็ด และ รับข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กรูปเลย

รูปคลิกดูเลขเด็ด จากทางteelekded

สรุป : 5 แนวทางพัฒนาทักษะการปรับตัวของคุณ

หากท่านใดที่ได้อ่าน ปรับตัวของคุณให้โดดเด่นเหนือผู้อื่น ของทางเราก็พอจะทราบแล้วใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ตามควรใช้ชีวิตอย่างสนุก อย่าพยายามคิดมากกับปัญหาต่างๆ ตีเลขเด็ด ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีสำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนไว้เจอกันใหม่ สวัสดีครับ